โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 18 พฤศจิกายน 2552 22:31 น. |
| |||
“เราเคยเตือนเรื่องการแข่งขันกันทางด้านอาวุธไซเบอร์ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน แล้ว แต่ตอนนี้พบหลักฐานมากขึ้นจนบอกได้ว่านี่เป็นเรื่องจริง” เดฟ เดอวอลต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมคอาฟี อิงค์กล่าวและว่า “ทุกวันนี้เราไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์แล้ว แต่เป็นอาวุธในโลกเสมือน ทุกคนจะต้องปรับตัวกับภัยคุกคามเหล่านี้ด้วย”
ในรายงานประจำปีที่มีชื่อว่า “รายงานว่าด้วยอาชญาวิทยาในโลกเสมือน” ฉบับล่าสุด แมคอาฟีระบุว่าจีน ฝรั่งเศส อิสราเอล รัสเซีย และสหรัฐฯ ได้พัฒนา “ศักยภาพในเชิงรุกในโลกไซเบอร์ที่ก้าวหน้าไปอย่างมาก”
นอกจากนั้นการจู่โจมในโลกไซเบอร์เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองก็มี แนวโน้มสูงขึ้น โดยแม้ว่าพวกผู้เชี่ยวชาญจะยังไม่เห็นพ้องกันเกี่ยวกับนิยามของคำว่าสงคราม ไซเบอร์ แต่ “สงครามไซเบอร์ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง”
ตัวอย่างก็คือโครงการของพวกหัวชาตินิยมรัสเซียที่รณรงค์ผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อมุ่งต่อต้านจอร์เจียเมื่อเดือนสิงหาคม 2008 ในระหว่างที่เกิดสงครามในออสเซเชียใต้ และในเดือนกรกฎาคม 2009 ก็มีการจู่โจมเว็บไซต์ของรัฐบาลสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของเกาหลีเหนือ เป็นต้น
รายงานระบุด้วยว่า บางที “สงครามเย็นในโลกไซเบอร์” อาจกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วก็ได้ ทั้งนี้ในสหรัฐฯ ได้มีความตื่นตัวมากขึ้นในหน่วยงานที่อาจตกเป็นเป้าหมาย เป็นต้น ทำเนียบขาว กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ หน่วยราชการลับ รวมทั้งกระทรวงกลาโหม
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายไฟฟ้า ธุรกิจธนาคารและการเงิน และธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ก็มีโอกาสเสี่ยงถูกโจมตี เพราะระบบเหล่านี้ในปัจจุบันมีการเชื่อมโยงกันด้วยอินเตอร์เน็ต ที่ยังขาดกลไกรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000139772